แสดงกระทู้ - admin

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - admin

หน้า: [1] 2 3 ... 6
1
ประเภทเกษตร:
ภูมิปัญญาเกษตรกรไทย


การเป็นลูกจ้างในยุคปัจจุบัน คงเป็นความขมขื่นสุดจะทน หลายคนจึงมีฝันที่จะหนีไปให้ไกล

สิ่งที่กลายเป็นปรากฏการณ์อันน่าฉงนสำหรับผมคือ “เดี๋ยวนี้ คนอยากไปทำเกษตรกรรมเยอะมาก”

เริ่มตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บนแผงหนังสือ ถูกยึดครองด้วยหนังสือแนวเกษตรกรรมจำนวนมาก อย่างที่ไม่เคยมีมากขนาดนี้มาก่อน

แล้วแต่ละเล่ม “สร้างฝัน” ทั้งสิ้น พืชชนิดนั้นเงินล้าน พืชชนิดนี้เงินล้าน หรือ พื้นที่เท่านั้นเท่านี้ไร่ ได้กี่แสน อ่านแค่ปก ตาก็ลุกวาวเป็นประกาย พร้อมตั้งคำถามกับตัวเอง…เฮ้ย! นี่เรามาโง่งมทำอะไร ทำงานแทบตาย โดนโขกโดนสับขนาดนี้ ได้เงินแค่นี้เองเหรอ…

แต่เดี๋ยวจะหาว่าผมขัดคอ กีดขวางคนมีฝัน เอาเป็นว่า ผมประมวลสิ่งที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับผู้คนที่เป็นเกษตรกรตัวจริงแต่อ้อนแต่ออก และเกษตรกรในฝัน เกษตรกรแบบสมาร์ตฟาร์มเมอร์ มีหลายอย่างน่าสนใจ และใครที่ยังมีฝันเช่นที่ว่ามา ลองนำไปใคร่ครวญดูครับ



ข้อที่หนึ่ง ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันครับว่า เกษตรกรรมเป็นอาชีพที่ “เหนื่อย” แม้จะเป็นสมาร์ตฟาร์มเมอร์ ที่หาเครื่องทุ่นแรงมาใช้มากมาย ก็ไม่วายต้องเหนื่อยในช่วงเริ่มต้น

ที่จั่วข้อนี้มาเป็นอันดับแรก เพื่อจะบอกว่า ถ้ายังมีฝัน ลองถามตัวเองว่า มีความสุขที่ต้องทำงานกลางแดด กลางลม เหงื่ออาบร่างแทบทั้งวันหรือไม่

ข้อที่สอง อย่าไปบ้าตามคนอื่น มีเกษตรกรรุ่นใหม่คนหนึ่งพูดได้น่าคิดครับ “อย่าไปหลงใหลได้ปลื้ม คิดว่ามันจะเป็นตามปกหนังสือ ปลูกไอ้โน่นเงินล้าน ไอ้นี่เงินล้าน ถ้าเขาปลูกได้เงินล้านจริง คงไม่มานั่งเขียนหนังสือขายหรอก” ไม่ได้แปลว่าไม่มีโอกาสทำเงินล้านได้ แต่ปัจจัยเกี่ยวข้องคงมีมากกว่าที่ปรากฏในหนังสือ ดังนั้น อย่าคิดว่าจะปลูกตามใคร แต่จงปลูกตามที่สนใจอยากปลูก ปลูกเพราะชอบพืชชนิดนั้น เพราะความชอบจะทำให้เราอยู่กับสิ่งนั้นได้นาน โดย “ไม่เบื่อ”

ข้อที่สาม มีความรู้ ไม่ว่าคิดจะปลูกอะไร ควรศึกษาหาความรู้ให้มากพอที่จะลงมือทำได้ อย่าทดลองแบบสุ่มสี่สุ่มห้า โดยไม่รู้อะไรเลย ความรู้ที่ว่านี้ ไม่เพียงทำความเข้าใจพืชชนิดที่จะปลูกเท่านั้น แต่เรื่องดิน น้ำ อากาศ ธาตุอาหาร วิธีการรับมือกับโรคและแมลง ล้วนแต่เป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร และไม่ควรละเลยที่จะต้องรู้

ข้อที่สี่ ควรมีพื้นที่ของตัวเอง พูดง่ายๆ มีที่ดินเป็นของตัวเอง ไม่เช่นนั้น การไปเช่าอาจโดนค่าเช่าผลาญรายได้ไปหมด บางรายก็ใช้วิธีซื้อด้วยเงินที่เก็บหอมรอมริบมา แบบนี้ก็ยังพอได้ เพราะคิดเสียว่า ออมเงินในรูปของอสังหาริมทรัพย์ จะได้สบายใจ เพราะหากนำต้นทุนค่าที่ดิน มารวมเป็นต้นทุนในการทำเกษตรกรรมด้วย อาจหมดแรงใจไปเสียก่อน

ข้อที่ห้า มีเวลา อย่าฝันไปว่า ฉันจะเป็นสมาร์ตฟาร์มเมอร์ ที่ใช้เครื่องทุ่นแรงล้วนๆ ไม่ต้องมีเวลาก็ทำได้ หรือใช้วิธีไปปลูกแล้วปล่อยโตตามยถากรรม ปลูกทิ้งขว้างแบบนั้น คงไม่สมควรนับว่าเป็นการทำอาชีพเกษตรกรรม ควรเรียกว่าปลูกกันที่ว่างไร้ประโยชน์ น่าจะตรงมากกว่า

ข้อที่หก มีความใส่ใจ มีผู้กล่าวว่า “รอยเท้าของเจ้าของ คือ ปุ๋ยชั้นดีของพืช” เจ้าของเหยียบย่ำไปถึงตรงไหน พืชก็เจริญเติบโตไปถึงนั่น ถ้าจะตีความแบบดูไม่ลึกลับเป็นไสยศาสตร์ ก็คือ “ความใส่ใจ” เจ้าของควรหมั่นเดินตรวจตรา ดูความเปลี่ยนแปลง สังเกตพืชพันธุ์ที่ตัวเองปลูกทุกต้น บ่อยเท่าที่จะเป็นไปได้

เครื่องทุ่นแรง อาจให้น้ำอัตโนมัติ หรือทำอื่นๆ อัตโนมัติ แต่เครื่องเหล่านั้น สอดส่องดูแลใกล้ชิดแบบคนไม่ได้ ความใส่ใจ จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ

ข้อที่เจ็ด มีความอดทน อาชีพเกษตรกรรม เป็นอาชีพแห่งการรอคอย ไปเร่งเวลาไม่ได้ ต้องรอคอยค่อยเป็นค่อยไป ตามธรรมชาติของพืชแต่ละชนิด แต่ถ้าเข้าใจลึกซึ้ง ก็อาจแกล้งให้เกิดการออกผลผลิตนอกฤดูได้ สภาพดินฟ้าอากาศ น้ำ ลม แต่ละที่ มีความแตกต่างกัน โรค แมลง พร้อมรุมเร้า คิดว่า “รับมือ” ไหวหรือไม่

2


ฝันถึง งานศพ ทำนายว่า จะได้รับข่าวดีเกี่ยวกับหน้าที่การงานหรือการค้าขาย
- เลขเด็ด 47 27 48

ฝันถึง ซินแส ทำนายว่า อุปสรรคในการทำงานจะหมดไป
- เลขเด็ด 15 57 387

ฝันถึง โกนผม ทำนายว่า จะมีปากเสียงกับคนในบ้านหรือที่ทำงาน
- เลขเด็ด 41 42 91

ฝันถึง กินข้าว ทำนายว่า จะเจริญก้าวหน้าในที่ทำงาน
- เลขเด็ด 54 10 20

ฝันถึง ตัด ทำนายว่า จะได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงาน
- เลขเด็ด 14 19 35

ฝันถึง ถ่านไฟ ทำนายว่า จะต้องย้ายที่อยู่หรือที่ทำงานในไม่ช้า
- เลขเด็ด 40 404 406

ฝันถึง ป่าเขา ทำนายว่า จะได้ย้ายที่ทำงานหรือที่อยู่
- เลขเด็ด 434 465 537

ฝันถึง จิ้งจก ทำนายว่า จะได้รับข่าวดีจากการงาน เสี่ยงโชคได้นิดหน่อย
- เลขเด็ด 77 71 771

ฝันถึง เจ้า ทำนายว่า จะได้เลื่อนตำแหน่งหรือได้รับเงินเพิ่ม
- เลขเด็ด 89 19 59

ฝันถึง พ่อแม่ ทำนายว่า จะได้ลาภกิจการ การงานดีขึ้น
- เลขเด็ด 89 48 499

ฝันถึง พระบรมรูป ทำนายว่า จะได้รับโชคลาภทางการเงินและการงาน
- เลขเด็ด 259 459 458

ฝันถึง แม่ ทำนายว่า จะมีคนเข้ามาช่วยเหลือเรื่องธุรกิจ
- เลขเด็ด 89 48 499

ฝันถึง กษัตริย์ ทำนายว่า จะได้เลื่อนยศ เลื่อนขั้น หรือได้รับข่าวดีจากผู้ใหญ่
- เลขเด็ด 89 19 59

ฝันถึง ทะเลาะ ทำนายว่า จะมีการโยกย้ายเกี่ยวกับงานในทางที่ไม่ดี
- เลขเด็ด 79 76 719

ฝันถึง แม่น้ำ ทำนายว่า เงินทองไหลมาเทมา การงานราบรื่น
- เลขเด็ด 58 51 517

ฝัoถึง ไฝ ทำนายว่า จะถูกเจ้านายเพ่งเล็ง หรือชื่อเสียงด่างพร้อย
- เลขเด็ด ไม่ควรเสี่ยงโชคช่วงนี้

ฝันถึง เสือ ทำนายว่า จะได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงาน
- เลขเด็ด 34 30 349

ฝันถึง เครื่องบิน ทำนายว่า จะได้รับข่าวดีจากทางญาติหรือที่ทำงาน
- เลขเด็ด 44 48 418

ฝันถึง คนตาย ทำนายว่า จะได้ลาภเสี่ยงโชคทางการค้า
- เลขเด็ด 14 10 44

3


ฝันถึง อุ้มเด็ก ทำนายว่า คนโสดจะได้คู่ คนมีคู่จะได้ลูก
- เลขเด็ด 17 13 33

ฝันถึง ชู้ ทำนายว่า คนรักจะปันใจให้คนอื่น
- เลขเด็ด 22 24 28

ฝันถึง งู
ทำนายว่า คนโสดจะได้แต่งงาน คนมีคู่ค้องระวังคู่นอกลู่นอกทาง
- เลขเด็ด 56 66 559

ฝันถึง คู่รัก
ทำนายว่า ต้องพลัดพรากจากคู่หรือเจออุปสรรค
- เลขเด็ด 55 66 33

ฝันถึง งูรัด ทำนายว่า คนโสดจะได้พบเนื้อคู่
- เลขเด็ด 56 566 568

ฝันถึง ช้อนชาม
ทำนายว่า จะได้บุตรหรือเลี้ยงสัตว์
- เลขเด็ด 77 78 47

ฝันถึง งูพิษ ทำนายว่า จะมีโชคด้านความรัก สละโสดหรือแต่งงาน
- เลขเด็ด 56 55 566

ฝันถึง แหวนทอง ทำนายว่า ถ้าคนมีคู่ได้ลูก ถ้าคนโสดจะพบรัก
- เลขเด็ด 09 08 209

ฝันถึง เงิน ทำนายว่า คนที่มีครอบครัวจะได้บุตร
- เลขเด็ด 66 69 369

ฝันถึง แหวน ทำนายว่า ถ้าเป็นคนท้องจะได้ลูกน่ารัก ถ้าเป็นคนโสดจะได้เจอเนื้อคู่
- เลขเด็ด 09 08 209

ฝันถึง ตัวเงินตัวทอง
ทำนายว่า คนโสดจะมีคู่ คนมีคู่จะมีบุตร
- เลขเด็ด 137 341 239

ฝันถึง นาฬิกา ทำนายว่า จะได้พบเนื้อคู่ หรือมีโชคลาภในการเสี่ยงทาย
- เลขเด็ด 09 29 129

ฝันถึง ภรรยา
ทำนายว่า ถ้าเป็นผู้ชายจะได้รับโชคลาภจากผู้หญิง
- เลขเด็ด 35 36 359

ฝันถึง ของมีค่า
ทำนายว่า จะมีคดีความกับครอบครัวหรือคนรัก
- เลขเด็ด 89 82 289

ฝันถึง พระจันทร์ ทำนายว่า จะได้รับโชคลาภหรือมีบุตรเป็นผู้หญิง
- เลขเด็ด 07 78 708


4

ซีรีส์ ฅนของพระราชา 1 "ตามรอยพ่อ"

ที่มา : TvburabhaOfficial

6
ประเภทข่าวสาร:
การเกษตร


เทสโก้ โลตัส สนับสนุนพื้นที่ฟรี เปิดศูนย์ฝึกอาชีพแก่ประชาชน ณ สาขาลาดพร้าว เสริมศักยภาพแรงงานไทยสู้โควิด-19
คุณเบญจวรรณ อ่องศรี ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารพื้นที่เช่า เทสโก้ โลตัส ร่วมกับ นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตจตุจักร เปิดศูนย์ฝึกอาชีพจตุจักร ณ เทสโก้ โลตัส สาขาลาดพร้าว โดยเทสโก้ โลตัส สนับสนุนพื้นที่พร้อมสาธารณูปโภคให้เป็นเวลา 3 ปีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ศูนย์ฝึกอาชีพจตุจักรจะเป็นศูนย์กลางในการจัดฝึกอบรมหลักสูตรวิชาชีพหลากหลายให้แก่ประชาชนที่สนใจ อาทิ วิชาอาหารคาว เบเกอรี่ ตัดผมชาย เสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี และนวดไทยเพื่อสุขภาพ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจทำให้ประชาชนสูญเสียรายได้

7
รักษาโรคประเภท
รักษาโรคประเภท:
กลุ่มยาขับปัสสาวะ


สมุนไพรที่มีชื่อเรียกว่า หญ้าหนวดแมว ซึ่งมีลักษณะเด่นของดอกที่คล้ายกับหนวดแมว เชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่จะรู้จักหรือเคยได้ยินเฉพาะชื่อ ส่วนลักษณะของหญ้าหนวดแมวนั้นอาจจะมีน้อยคนที่เคยเห็นหรือรู้จัก

แต่คนในสมัยอดีต รู้จักและใช้หญ้าหนวดแมวเป็นสมุนไพรในการรักษาโรคต่างๆมาจนถึงปัจจุบัน และในยุคปัจจุบันได้มีการแปรรูปเป็นผงและแคปซูลที่สะดวกต่อการรับประทานมากขึ้น ลักษณะที่น่าสนใจต่างๆของหญ้าหนวดแมว มีดังนี้

ลักษณะของหญ้าหนวดแมว  เป็นพืชขนาดเล็ก เป็นพืชล้มลุก สูง 30-60 เซนติเมตร เนื้อเป็นเนื้อไม้อ่อนหักง่าย แผ่นใบเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยมีขนเล็กน้อย

แผ่นใบสีเขียวเข้มผิวใบทั้งสองด้านมีต่อมเป็นจุดๆจำนวนมาก ดอกออกตรงปลายยอด ดอกสีขาวอมม่วงอ่อน  ในช่อดอกมีดอกย่อยประมาณ 6 ดอก  เมล็ดยาวประมาณ 1.5 มิลลิเมตร ผลรูปขอบขนานตามผิวมีรอยย่น  หญ้าหนวดแมวจัดเป็นพืชป่าในเขตร้อนชื้น มีถิ่นกำเนิดในเอเชีย

สารที่สำคัญในหญ้าหนวดแมว

สารฟลาโวนอยด์ สามารถยับยั้งการเพิ่มขนาดของผลึกแคลเซียมออกซาเลทในก้อนนิ่วที่อยู่ในทางเดินปัสสาวะได้ และหญ้าหนวดยังมีสารสำคัญต่างๆคือ  พลังงาน โปรตีน. ไขมัน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล ใยอาหาร โซเดียม สารสำคัญเหล่านี้มีอยู่ในหญ้าหนวดแมว เป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ จึงถือว่าหญ้าหนวดแมวเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ไม่น้อย ที่ควรหามาปลูกในบริเวณบ้าน

 

สรรพคุณที่โดดเด่นของหญ้าหนวดแมว

ขับปัสสาวะ น้ำมันหอมระเหยที่มีสารซาโปนิน และสารแทนรินในหญ้าหนวดแมว มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ  การได้รับประทานสารสกัดจากหญ้าหนวดแมวสามารถขับโซเดียมและโปแตสเซียมในปัสสาวะมีการทำการวิจัยที่สนับสนุนว่าสารสกัดน้ำจากใบหญ้าหนวดแมวมีผลในการขับปัสสาวะ
รักษานิ่ว ยาหนวดแมวมีฤทธิ์ในการเคลื่อนตัวของนิ่วบริเวณกระดูกบริเวณเหน็บ ช่วยลดการรับประทานยาแก้ปวดได้ ผู้ดื่มน้ำจากหญ้าหนวดแมวสามารถทำให้ความดันโลหิตลดลงได้  ผู้ป่วยมีปัสสาวะที่เป็นด่างมากขึ้น ช่วยลดการเกิดนิ่วจากกรดยูริกได้
ประโยชน์ของหญ้าหนวดแมว

รักษาโรคปวดตามสันหลัง และบั้นเอว
แก้โรคไตบรรเทาอาการปัสสาวะอักเสบ
แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน
แก้หนองใน
รักษาโรคกระษัย
บรรเทาอาการไอ
แก้ปวดเมื่อยและไขข้ออักเสบ
ช่วยลดความดันโลหิต
รักษาถุงน้ำดีอักเสบ
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

 ส่วนต่างๆของหญ้าหนวดแมว ที่ใช้รักษาโรคต่างๆ

1.ใช้ใบสดและใบแห้งต้มเอาน้ำดื่ม ดื่มก่อนอาหาร ครั้งละ 1 ถ้วยชา ช่วยรักษาอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ รักษาโรคนิ่ว สลายนิ่ว ช่วยลดขนาดของก้อนนิ้ว

2.ใช้กิ่งกับใบขนาดกลางไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไป ล้างผึ่งลมให้แห้ง นำมาชงกับน้ำเดือดเหมือนการชงชา ใช้ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน  จะช่วยให้ปัสสาวะคล่อง อาการปวดนิ่วลดลงมีขนาดเล็กลงและสามารถทำให้นิ่วหลุดออกมาได้เอง

3.นำใบมาชงเป็นชาดื่ม แก้โรคไตและโรคกระเพาะปัสสาวะ

 ข้อควรระวังในการใช้หญ้าหนวดแมว

หญ้านวดแมวมีสารโพแทสเซียมสูง เมื่อไตในร่างกายไม่ปกติไม่สามารถขับโพแทสเซียมออกมาได้ อาจเกิดโทษร้ายแรงต่อร่างกาย ขับปัสสาวะออกมามากเกินปกติ  เมื่อรับโพแทสเซียมที่สูงเกินไปจะไปกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ส่งผลให้เป็นโรคหัวใจตามมา และอาการข้างเคียงที่มักพบในคนปกติที่รับประทานหญ้าหนวดแมวเป็นครั้งแรก

ฤทธิ์ของหญ้าหนวดแมวอาจจะไปกดหัวใจ  ทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก หน้ามืดวิงเวียน ซึ่งเป็นอาการที่อันตรายมาก ควรหยุดรับประทานทันที  เมื่อรับประทานหญ้าหนวดแมวเป็นครั้งแรกควรค่อยๆรับประทานแต่น้อย

หากเกิดอาการผิดปกติควรหยุดรับประทานทันที ผู้หญิงตั้งครรภ์และหญิงที่ให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานหญ้าหนวดแมว เพราะสารที่มีอยู่ในหญ้าหนวดแมว จะสะสมในร่างกายมากเกินไปทำให้ส่งผลร้ายต่อเด็กในครรภ์และเด็กทารกที่ยังดื่มนมแม่

หญ้าหนวดแมว นอกจากประโยชน์ต่างๆที่กล่าวมาแล้ว ยังสามารถปลูกต้นหญ้าหนวดแมวเป็นรั้วบ้านได้ เพราะดอกของต้นหญ้าหนวดแมวสามารถออกดอกตลอดทั้งปีให้ความสวยงามให้กับบ้าน

การรับประทานหญ้าหนวดแมวนั้นต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อนการรับประทาน เพราะรับประทานจำนวนที่มากเกินไปหรือรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายอย่างแน่นอน

12
ประเภทข่าวสาร:
การเกษตร


บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ผุดโมเดลเกษตรกรรมยั่งยืน ส่งเสริมผู้เลี้ยงโคเนื้อ ปรับวิธีเลี้ยงแบบขุน ปรับสูตรอาหารสัตว์และสภาพแวดล้อม รับความต้องการบริโภคเนื้อวัวพรีเมียมเติบโต ด้วยการเชื่อมโยงตลาดผ่านสาขาของแม็คโครสู่ผู้ประกอบการร้านอาหาร เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรมากกว่า 20,000 บาทต่อตัว พร้อมวางแผนการตลาดและพัฒนาร่วมกันอย่างต่อเนื่องภายใต้กลยุทธ์ การตลาดนำการผลิต


นางศิริพร เดชสิงห์

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยกระแสความนิยมบริโภคเนื้อวัวคุณภาพที่มีลายไขมันแทรก หลังจากธุรกิจร้านอาหารประเภทชาบู ปิ้งย่าง หมูกระทะ เติบโตเป็นอย่างมาก ทำให้แม็คโครมองเห็นโอกาสในการพัฒนาเนื้อวัวของไทยให้เข้าสู่ตลาดพรีเมียม โดยทำงานร่วมกับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนทั่วประเทศและกรมปศุสัตว์  ยกระดับการเลี้ยงขุนโดยให้ทานอาหารที่ปรับสูตรอย่างเหมาะสมและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ทำให้วัวมีไขมันแทรกในชั้นกล้ามเนื้อมาก ซึ่งเป็นไขมันดี มีรสชาติที่ดีเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค



อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.kasetkaoklai.com/home/2020/12

13
ประเภทข่าวสาร:
การเกษตร


ในระยะนี้จะมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ กรมวิชาการเกษตร แนะเกษตรกรผู้ปลูกสตรอว์เบอร์รีเฝ้าระวังการระบาดของโรคแอนแทรคโนส สามารถพบได้ในทุกระยะการเจริญเติบโตของสตรอว์เบอร์รี มักพบอาการบนก้านใบและลำต้น มีแผลสีม่วงแดงขนาดเล็กขยายลุกลามไปตามความยาวของก้านใบและลำต้น ต่อมาเปลี่ยนเป็นแผลสีน้ำตาล เนื้อเยื่อบริเวณแผลแห้ง ทำให้เกิดรอยคอด หากอาการรุนแรง ต้นจะเหี่ยว และตายในที่สุด อาการบนผล พบแผลฉ่ำน้ำสีน้ำตาลเข้ม เนื้อเยื่อรอบขอบแผลสีซีด แผลยุบตัวลง หากอาการรุนแรง แผลจะขยายใหญ่จนทำให้ผลเน่า ในสภาพที่มีอากาศชื้นอาจพบกลุ่มสปอร์สีส้มของเชื้อราสาเหตุโรคอยู่บริเวณแผล

 

วน อาการบนไหล จะมีแผลเล็กสีม่วงแดงขยายลุกลามไปตามความยาวของสายไหล ต่อมาแผลที่ขยายยาวจะเปลี่ยนเป็นแผลสีน้ำตาล ทำให้เกิดรอยคอดของไหลบริเวณที่เป็นแผล เมื่อย้ายต้นจากไหลที่มีการติดเชื้อมาปลูกหากสภาพอากาศเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเชื้อราสาเหตุโรค สตรอว์เบอร์รีจะแสดงอาการใบเฉา ต่อมาจะเหี่ยวอย่างรวดเร็ว และพบว่ากอด้านในจะเน่าแห้งสีน้ำตาลแดง หรือบางส่วนเป็นแผลขีดสีน้ำตาลแดง และต้นจะตายในที่สุด



แนวทางในการป้องกันกำจัด เกษตรกรต้องหมั่นตรวจและกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบโรคให้ตัดส่วนที่เป็นโรคนำไปทำลายนอกแปลงปลูก จากนั้น ให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชฟลูโอไพแรม+ไตรฟลอกซีสโตรบิน 25%+25% เอสซี อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟลูโอไพแรม+ทีบูโคนาโซล 20%+20% เอสซี อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 5 วัน ในส่วนของแปลงที่พบการระบาดของโรค หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตสตรอว์เบอร์รีแล้ว ให้เกษตรกรเก็บซากพืชนำไปทำลายนอกแปลงปลูก และควรเลือกใช้ส่วนขยายพันธุ์ที่มีคุณภาพดีจากแหล่งปลอดโรค

ที่มา : เกษตรก้าวไกล

14
ประเภทข่าวสาร:
การเกษตร


ผศ.รัชด ชมภูนิช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาอย่างยั่งยืนและสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เข้าร่วมการการประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยยั่งยืนแห่งประเทศไทย SUN Thailand 2020 ระหว่างวันที่ 3 – 4 ธันวาคม 2563 ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยมีสมาชิกซึ่งประกอบด้วยสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุมจำนวน  36 สถาบัน



โดยในพิธีเปิดการประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยยั่งยืนแห่งประเทศไทย SUN Thailand 2020 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้เกียรติร่วมอภิปรายในพิธีเปิดการประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยยั่งยืนแห่งประเทศไทย SUN Thailand 2020 ด้วย นอกจากนี้ยังมี ผู้บริหาร  คณาจารย์ บุคลากร และ นิสิต และ นิสิต มก.เข้าร่วมนำเสนอผลงานด้านความยั่งยืนทั้งภาคบทความและโปสเตอร์กว่าสิบผลงาน



ผลการประกวดผลงานด้านความยั่งยืนประเภทบทความและโปสเตอร์ ของคณาจารย์ บุคลากร และผลงานด้านความยั่งยืนของนิสิต นักศึกษา ในปีนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับรางวัลชนะเลิศ 2 รางวัล และ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 อีก 1 รางวัล ดังนี้

รางวัลชนะเลิศ การนำเสนอบทความ หัวข้อ Sustainable Education โครงการ หลักสูตรวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืน โดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิม พระเกียรติ จังหวัดสกลนคร
รางวัลชนะเลิศ การนำเสนอโปสเตอร์ หัวข้อ Sustainable Health โครงการ พุธหรรษา โดย สำนักการกีฬา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โครงการ KU Says โดย สภาผู้แทนนิสิต องค์การนิสิต




นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังได้รับเกียรติให้เป็น ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยยั่งยืนแห่งประเทศไทย ในปี 2564 ต่อจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อีกด้วย



ที่มา : kasetkaoklai.com


15
ประเภทข่าวสาร:
ภัยธรรมชาติ


วันนี้ (4 ธ.ค. 63) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัยในพื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัด 90 อำเภอ 469 ตำบล 2,960 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 314,639 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 8 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา และยะลา

ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – ปัจจุบัน (4 ธันวาคม 2563 เวลา 06.00 น.)

โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย รวม 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 90 อำเภอ 469 ตำบล 2,960 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 314,639 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 8 ราย ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมใน 7 จังหวัด 67 อำเภอ 374 ตำบล 2,618 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 302,110 ครัวเรือน ดังนี้

สุราษฎร์ธานี
น้ำท่วมขังในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอวิภาวดี อำเภอท่าฉาง อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอเคียนซา อำเภอชัยบุรี อำเภอพุนพิน อำเภอเวียงสระ อำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอไชยา รวม 66 ตำบล 384 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,524 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง กระบี่ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขาพนม และอำเภอลำทับ รวม 3 ตำบล 9 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 67 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

นครศรีธรรมราช
น้ำท่วมขังในพื้นที่ 23 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอลานสกา อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอชะอวด อำเภอปากพนัง อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอหัวไทร อำเภอสิชล อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอขนอม อำเภอนาบอน อำเภอทุ่งสง อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอบางขัน อำเภอพิปูน อำเภอฉวาง อำเภอพรหมคีรี อำเภอถ้ำพรรณา อำเภอช้างกลาง และอำเภอพระพรหม รวม 150 ตำบล 1,054 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 184,750 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัวและยังมีฝนตกในพื้นที่

ตรัง
น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอนาโยง อำเภอห้วยยอด อำเภอรัษฎา รวม 15 ตำบล 61 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,261 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอป่าบอน อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอตะโหมด อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าพะยอม อำเภอบางแก้ว และอำเภอศรีบรรพต รวม 65 ตำบล 670 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 46,284 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

สงขลา
น้ำท่วมขังในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอจะนะ อำเภอสะเดา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหนคร อำเภอนาหม่อม อำเภอรัตภูมิ อำเภอบางกล่ำ อำเภอสทิงพระ อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ และอำเภอคลองหอยโข่ง รวม 70 ตำบล 435 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 56,873 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

ยะลา
น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอบันนังสตา และอำเภอยะหา รวม 5 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 351 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

อย่างไรก็ตามกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย พื้นที่ใกล้เคียง พื้นที่อื่น ๆ สนับสนุนการเผชิญเหตุ

โดยระดมกำลังพลและทรัพยากรด้านสาธารณภัย อาทิ เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือไฟเบอร์ รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถสุขาเคลื่อนที่ รถประกอบอาหาร รถไฟฟ้าส่องสว่าง ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูงและเร่งระบายน้ำท่วมขัง

รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ภาพข่าวโดย MThai

16
ประเภทข่าวสาร:
เศรษฐกิจ


เปิดให้ลงทะเบียน 16 ธ.ค.63 รับเงิน 3,500 บาท ส่วนคนได้สิทธิเฟสแรก กดยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com รอรับเงิน 500 บาท เข้าแอปฯ เป๋าตัง 1 ม.ค.64


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า วันที่ 8 ธ.ค.63 กระทรวงการคลังเตรียมนำเสนอรายละเอียดโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (เฟส 2) เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเตรียมเปิดลงทะเบียนเพิ่มเติมอีก 5 ล้านคน ในวันที่ 16 ธ.ค.63 ซึ่งในรอบนี้จะได้รับเงิน 3,500 บาทต่อราย

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่ง เฟส 1 ไปแล้ว 10 ล้านคน วงเงิน 3,000 บาทต่อราย ในวันที่ 16 ธ.ค.63 จะมีปุ่มบนเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com เพื่อให้กดยืนยันสิทธิ์ในการเข้าสู่โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 เพื่อใช้จ่ายต่อเนื่องในวันที่ 1 ม.ค.64 ทันที โดยยอดเงินที่ใช้จ่ายในเฟส 1 หากยังมีวงเงินเหลือยอดนั้น จะสมทบไปในเฟส 2 ทันที ดังนั้น ผู้ที่ร่วมโครงการไม่ต้องรีบใช้เงินให้หมด

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่กดยืนยันสิทธิ์แล้ว กระทรวงการคลังจะโอนเงินจำนวน 500 บาทให้ ในวันที่ 1 ม.ค.64 เพื่อใช้จ่ายในอีก 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.64) 

ภาพข่าวโดย : ไทยรัฐ

17
ประเภทข่าวสาร:
การเกษตร


"รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง"  "บิ๊กตุ๋ย" นำคณะทำงาน ดูแลกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ในโครงการแปรรูปเกษตรแปลงใหญ่ ธนาคารเมล็ดข้าวชุมชน พร้อมเยี่ยมชมโคก หนอง นา โมเดล และโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน

มื่อวันที่ 4 ธ.ค.63 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ หัวหน้าคณะทำงานกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ตรวจความพร้อมและผลสัมฤทธิ์ของโครงการที่จะขอรับสนับสนุนงบกลางฯ ปีงบประมาณ 2564



โดยในช่วงเช้าได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพความเหมาะสมและความพร้อมของโครงการที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในอำนาจของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้แก่ โครงการเสริมสร้างศักยภาพการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าข้าวของเกษตรแปลงใหญ่ กลุ่มธนาคารเมล็ดข้าวชุมชนบ้านครึ่งใต้-ประชาภิวัฒน์ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยมี นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ



พร้อมรับฟังบรรยายสรุปนำเสนอแนวทางการดำเนินโครงการ ปัญหาความต้องการเร่งด่วนของพื้นที่ ณ ศาลาอเนกประสงค์ชุมชนครึ่งใต้-ประชาภิวัฒน์ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมพื้นที่ดำเนินโครงการ โคก หนอง นา โมเดล และโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน



จากนั้นช่วงบ่ายเดินทางไปพบปะประชาชน ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจสภาพความเหมาะสมและความพร้อมของโครงการที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ได้แก่ โครงการขุดลอกคลองส่งน้ำ บ้านสารภี หมู่ 5 บ้านป่ากุ๊ก หมู่ 7 ตำบลเชียงเคี่ยน อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำในการอุปโภค บริโภค และเกษตรกรรม.






ภาพข่าวโดย : ไทยรัฐ


18
ประเภทข่าวสาร:
อาชญากรรม


ดาบตำรวจปืนโหด กระหน่ำยิงเมียคาร้านอาหารสาหัส ผัวเมียในร้านดับอีก 2 เกลี้ยกล่อมนาน 2 ชม. ก่อนยอมมอบตัว หิ้วตัวสอบสวน เบื้องต้นคาดปมหึงหวง หุ้นส่วนในร้าน

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 29 พ.ย.63 ร.ต.อ.สมจิตร ชุมเสนา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนสุวรรณ รับแจ้งเหตุยิงกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสยามปู่อินทร์บุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นร้านอาหารอยู่ในตึกแถวชั้นเดียว ภายในร้านพบคนถูกยิง 3 คน คือ นายจรัญ สุขวงศ์กฎ อายุ 43 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ตามลำตัวและหน้าผาก รวม 9 นัด เสียชีวิต ใกล้กันพบ นางสมคิด อายุประมาณ 42 ปี (ภรรยานายจรัญ) ถูกยิงตามร่างกายรวม 6 นัดเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบ นางนุชจรีย์ แก้วจตุรัตน์ อายุ 42 ปี เป็นพยาบาลวิชาชีพ รพ.โนนสุวรรณ ถูกยิงบริเวณโหนกแก้ม 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.โนนสุวรรณ ก่อนจะส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ ส่วนผู้ก่อเหตุคือ ดาบตำรวจอร่าม สังข์ชัย อายุ 44 ปี ผบ.หมู่ ป้องกันและปราบปราม ช่วยราชการพนักงานวิทยุ สภ.โนนสุวรรณ ซึ่งเป็นสามีของ นางนุชจรีย์ ผู้บาดเจ็บ 

จากการสอบถาม น.ส.สุวรรณี เย็นรักศรี อายุ 38 ปี ลูกค้าที่มานั่งรับประทานอาหารภายในร้าน เล่าว่า ตนเป็นเพื่อนร่วมงานกับ นางนุชจรีย์ ระหว่างที่กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้าน ดาบตำรวจอร่าม ซึ่งรู้จักกันดี เดินเข้ามาแล้วชักอาวุธปืนยิงกระหน่ำภายในร้าน พวกตนได้แต่หมอบลงกับพื้น และคว้าแขนดาบตำรวจอร่าม แล้วถามว่า "ทำไม" โดยได้รับคำตอบกลับมาว่า "ไม่เป็นไร" ก่อน ดาบตำรวจอร่าม จะขับรถจักรยายนต์ออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัว ดาบตำรวจอร่าม พบว่าได้พาลูกสาวอายุประมาณ 20 ปีไปอยู่ที่บ้านพัก โดย พ.ต.อ.ชวาล อุทัยพันธุ์ ผกก.สภ.โนนสุวรรณ ได้เดินทางมาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 2 ชม. ดาบตำรวจอร่ามจึงยอมมอบตัว ก่อนตำรวจจะนำตัวไปสอบสวน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากความหึงหวงหุ้นส่วนภายในร้านอาหาร.

ที่มา ข่าวไทยรัฐ

19
ประเภทข่าวสาร:
ข่าวทั่วๆไป


สองผัวเมียชาวนา ที่ตากข้าวริมถนนผวาหนัก หลังตามไปขอโทษเสี่ยบิ๊กไบค์ถึงบ้าน 3 ครั้ง แต่ไม่ยอมรับ เผยกู้เงินนอกระบบมา 4,000 หวังเอาไปเป็นค่าทำขวัญให้เสี่ย เตรียมต้องไปขึ้นศาลวันที่ 25 พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.63 กรณีนายคณากร อภัยจิตต์ หรือ เสี่ยเต้ย อายุ 28 ปี เจ้าของร้านยางแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อ Ducati Multistrada Enduro มาจากตัวอำเภอนางรอง จะกลับบ้านที่บ้านหนองสะแก ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ ประสบอุบัติเหตุรถไปชนใส่ข้าวเปลือกที่ชาวนาตากเอาไว้ข้างถนน จนตัวเองได้รับบาดเจ็บและรถเสียหาย ก่อนจะไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเอาผิดเจ้าของข้าวเปลือก เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ เวลา 20.00 น.(16 พ.ย.) ที่ผ่านมา บนถนนในหมู่บ้าน ต่อมาเสี่ยเต้ย กล่าวกับสื่อว่า ไม่ติดใจที่บาดเจ็บและซ่อมรถ เพียงแค่ขอให้นายสมชาย หมื่นรัมย์ อายุ 67 ปี และนางกูล หมื่นรัมย์ อายุ 60 ปี สองสามีภรรยา ชาวนาเจ้าของกองข้าวเปลือก ที่ ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นเจ้าของข้าว มาขอโทษแล้วจบกัน



ความคืบหน้าล่าสุด สองสามีภรรยาเจ้าของข้าวเปลือก ได้เดินทางไปที่ร้านยางของเสี่ยเต้ย ปรากฏว่าเสี่ยเต้ย ไม่ยอมออกจากร้านมาพบ ซึ่งจากการสอบถามเสี่ยเต้ยทางโทรศัพท์ทราบว่า "ต้องการเอาหลานที่โพสต์ต่อว่า" มาขอโทษด้วย แต่สองสามีภรรยายังทำไม่ได้ทันที เพราะหลานลางานไม่ได้ สองผัวเมียชาวนารอที่ร้านยางประมาณ 1 ชม. จึงเดินทางกลับ โดยไม่มีใครภายในร้านออกมาพูดคุยแต่อย่างใด ทั้งนี้ หลังจากชาวบ้านทราบข่าว เดินทางมาให้กำลังใจสองสามีภรรยาไม่ขาดสาย

อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1980448

หน้า: [1] 2 3 ... 6