หญ้าหนวดแมว สรรพคุณขับปัสสาวะ หญ้ารักษาโรค
Khaset108@gmail.com
www.khaset108.com
เข้าระบบ
สมัครสมาชิก
ลงประกาศฟรี
ติดต่อเรา
Toggle navigation
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
Search posts
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบสมาชิก
×
เข้าสู่ระบบ
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เกษตร สมุนไพร ข่าวเกษตร ปลูกผัก เลี้ยงปลา ประมง ปศุสัตว์ การเกษตร เกษตรร้อยแปดดอทคอม
เว็บบอร์ดเกษตร การเกษตร ข่าวสาร สมุนไพร ตลาดซื้อขายสินค้าฟรี 24 ชั่วโมง
สมุนไพร
หญ้าหนวดแมว สรรพคุณขับปัสสาวะ หญ้ารักษาโรค
รายละเอียดโพส!
admin
กลุ่มยาขับปัสสาวะ
ข่าวใหม่ล่าสุด
เทสโก้ โลตัส หนุนพื้นที่ฟรี เปิดศูนย์ฝึกอาชีพแก่ประชาชน เสริมแรงง...
การเกษตร
ข่าวสาร บทความ ภูมิปัญญาเกษตรและอื่นๆ
หญ้าหนวดแมว สรรพคุณขับปัสสาวะ หญ้ารักษาโรค
0 ตอบ
5002 อ่าน
«
admin
»เมื่อ:
10 ธันวาคม 2563, 01:56:30 am »
สมุนไพรที่มีชื่อเรียกว่า หญ้าหนวดแมว ซึ่งมีลักษณะเด่นของดอกที่คล้ายกับหนวดแมว เชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่จะรู้จักหรือเคยได้ยินเฉพาะชื่อ ส่วนลักษณะของหญ้าหนวดแมวนั้นอาจจะมีน้อยคนที่เคยเห็นหรือรู้จัก
แต่คนในสมัยอดีต รู้จักและใช้หญ้าหนวดแมวเป็นสมุนไพรในการรักษาโรคต่างๆมาจนถึงปัจจุบัน และในยุคปัจจุบันได้มีการแปรรูปเป็นผงและแคปซูลที่สะดวกต่อการรับประทานมากขึ้น ลักษณะที่น่าสนใจต่างๆของหญ้าหนวดแมว มีดังนี้
ลักษณะของหญ้าหนวดแมว เป็นพืชขนาดเล็ก เป็นพืชล้มลุก สูง 30-60 เซนติเมตร เนื้อเป็นเนื้อไม้อ่อนหักง่าย แผ่นใบเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยมีขนเล็กน้อย
แผ่นใบสีเขียวเข้มผิวใบทั้งสองด้านมีต่อมเป็นจุดๆจำนวนมาก ดอกออกตรงปลายยอด ดอกสีขาวอมม่วงอ่อน ในช่อดอกมีดอกย่อยประมาณ 6 ดอก เมล็ดยาวประมาณ 1.5 มิลลิเมตร ผลรูปขอบขนานตามผิวมีรอยย่น หญ้าหนวดแมวจัดเป็นพืชป่าในเขตร้อนชื้น มีถิ่นกำเนิดในเอเชีย
สารที่สำคัญในหญ้าหนวดแมว
สารฟลาโวนอยด์ สามารถยับยั้งการเพิ่มขนาดของผลึกแคลเซียมออกซาเลทในก้อนนิ่วที่อยู่ในทางเดินปัสสาวะได้ และหญ้าหนวดยังมีสารสำคัญต่างๆคือ พลังงาน โปรตีน. ไขมัน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล ใยอาหาร โซเดียม สารสำคัญเหล่านี้มีอยู่ในหญ้าหนวดแมว เป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ จึงถือว่าหญ้าหนวดแมวเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ไม่น้อย ที่ควรหามาปลูกในบริเวณบ้าน
สรรพคุณที่โดดเด่นของหญ้าหนวดแมว
ขับปัสสาวะ น้ำมันหอมระเหยที่มีสารซาโปนิน และสารแทนรินในหญ้าหนวดแมว มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ การได้รับประทานสารสกัดจากหญ้าหนวดแมวสามารถขับโซเดียมและโปแตสเซียมในปัสสาวะมีการทำการวิจัยที่สนับสนุนว่าสารสกัดน้ำจากใบหญ้าหนวดแมวมีผลในการขับปัสสาวะ
รักษานิ่ว ยาหนวดแมวมีฤทธิ์ในการเคลื่อนตัวของนิ่วบริเวณกระดูกบริเวณเหน็บ ช่วยลดการรับประทานยาแก้ปวดได้ ผู้ดื่มน้ำจากหญ้าหนวดแมวสามารถทำให้ความดันโลหิตลดลงได้ ผู้ป่วยมีปัสสาวะที่เป็นด่างมากขึ้น ช่วยลดการเกิดนิ่วจากกรดยูริกได้
ประโยชน์ของหญ้าหนวดแมว
รักษาโรคปวดตามสันหลัง และบั้นเอว
แก้โรคไตบรรเทาอาการปัสสาวะอักเสบ
แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน
แก้หนองใน
รักษาโรคกระษัย
บรรเทาอาการไอ
แก้ปวดเมื่อยและไขข้ออักเสบ
ช่วยลดความดันโลหิต
รักษาถุงน้ำดีอักเสบ
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
ส่วนต่างๆของหญ้าหนวดแมว ที่ใช้รักษาโรคต่างๆ
1.ใช้ใบสดและใบแห้งต้มเอาน้ำดื่ม ดื่มก่อนอาหาร ครั้งละ 1 ถ้วยชา ช่วยรักษาอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ รักษาโรคนิ่ว สลายนิ่ว ช่วยลดขนาดของก้อนนิ้ว
2.ใช้กิ่งกับใบขนาดกลางไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไป ล้างผึ่งลมให้แห้ง นำมาชงกับน้ำเดือดเหมือนการชงชา ใช้ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน จะช่วยให้ปัสสาวะคล่อง อาการปวดนิ่วลดลงมีขนาดเล็กลงและสามารถทำให้นิ่วหลุดออกมาได้เอง
3.นำใบมาชงเป็นชาดื่ม แก้โรคไตและโรคกระเพาะปัสสาวะ
ข้อควรระวังในการใช้หญ้าหนวดแมว
หญ้านวดแมวมีสารโพแทสเซียมสูง เมื่อไตในร่างกายไม่ปกติไม่สามารถขับโพแทสเซียมออกมาได้ อาจเกิดโทษร้ายแรงต่อร่างกาย ขับปัสสาวะออกมามากเกินปกติ เมื่อรับโพแทสเซียมที่สูงเกินไปจะไปกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ส่งผลให้เป็นโรคหัวใจตามมา และอาการข้างเคียงที่มักพบในคนปกติที่รับประทานหญ้าหนวดแมวเป็นครั้งแรก
ฤทธิ์ของหญ้าหนวดแมวอาจจะไปกดหัวใจ ทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก หน้ามืดวิงเวียน ซึ่งเป็นอาการที่อันตรายมาก ควรหยุดรับประทานทันที เมื่อรับประทานหญ้าหนวดแมวเป็นครั้งแรกควรค่อยๆรับประทานแต่น้อย
หากเกิดอาการผิดปกติควรหยุดรับประทานทันที ผู้หญิงตั้งครรภ์และหญิงที่ให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานหญ้าหนวดแมว เพราะสารที่มีอยู่ในหญ้าหนวดแมว จะสะสมในร่างกายมากเกินไปทำให้ส่งผลร้ายต่อเด็กในครรภ์และเด็กทารกที่ยังดื่มนมแม่
หญ้าหนวดแมว นอกจากประโยชน์ต่างๆที่กล่าวมาแล้ว ยังสามารถปลูกต้นหญ้าหนวดแมวเป็นรั้วบ้านได้ เพราะดอกของต้นหญ้าหนวดแมวสามารถออกดอกตลอดทั้งปีให้ความสวยงามให้กับบ้าน
การรับประทานหญ้าหนวดแมวนั้นต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อนการรับประทาน เพราะรับประทานจำนวนที่มากเกินไปหรือรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายอย่างแน่นอน
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »