ขายฝากบ้าน การซื้อขายอย่างหนึ่งซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกเป็นของผู้ซื้อฝากทันที
Khaset108@gmail.com
www.khaset108.com
เข้าระบบ
สมัครสมาชิก
ลงประกาศฟรี
ติดต่อเรา
Toggle navigation
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
Search posts
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบสมาชิก
×
เข้าสู่ระบบ
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เกษตร สมุนไพร ข่าวเกษตร ปลูกผัก เลี้ยงปลา ประมง ปศุสัตว์ การเกษตร เกษตรร้อยแปดดอทคอม
เว็บบอร์ดเกษตร การเกษตร ข่าวสาร สมุนไพร ตลาดซื้อขายสินค้าฟรี 24 ชั่วโมง
ตลาดซื้อขายสินค้า โปรโมทลงโฆษณาฟรี
ขายบ้าน ที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ
ขายฝากบ้าน การซื้อขายอย่างหนึ่งซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกเป็นของผู้ซื้อฝากทันที
ข่าวใหม่ล่าสุด
เทสโก้ โลตัส หนุนพื้นที่ฟรี เปิดศูนย์ฝึกอาชีพแก่ประชาชน เสริมแรงง...
การเกษตร
ข่าวสาร บทความ ภูมิปัญญาเกษตรและอื่นๆ
ขายฝากบ้าน การซื้อขายอย่างหนึ่งซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกเป็นของผู้ซื้อฝากทันที
0 ตอบ
765 อ่าน
«
Fern751
»เมื่อ:
04 มิถุนายน 2564, 10:49:30 am »
ขายฝากบ้าน
วิธีขายฝาก คืออะไรการขายฝาก คือ การซื้อขายอย่างหนึ่งซึ่งเจ้าของในสินทรัพย์ตกเป็นของผู้บริโภคฝากในทันที แต่มีกติกาว่า คนขายฝากบางทีอาจไถ่ทรัพย์คืนได้ภายในช่วงเวลาที่ระบุ สินทรัพย์ใด ขายฝากได้บ้าง เงินทุกหมวดหมู่ขายฝากได้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน รถยนต์ เรือ นาฬิกา แม้กระนั้นการซื้อขายทรัพย์สมบัติอะไรบางอย่างต้องทำตามแบบที่ข้อบังคับกำหนดไว้แบบของคำสัญญาขายฝาก
1. หากเป็นการขายฝากอสังหาริมทรัพย์ (ทรัพย์สินที่เขยื้อนไม่ได้) เช่น บ้าน หรือที่ ดิน หรือขายฝากเรือกำปั่น หรือเรือที่มีระวางตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟหรือเรือยนต์ที่มี ระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป เรือนแพที่คนพักอาศัย สัตว์พาหนะ อาทิเช่น ช้าง ม้า โค ฯลฯ
2. หากเป็นการขายฝากสังหาริมทรัพย์ ที่ราคาแพง 500 บาทหรือเรียกว่า 500 บาท ขึ้นไป แนวทางการขายฝากนี้จำเป็นต้องทำหลักฐานเป็นหนังสือ ให้ผู้ขายและก็ผู้ซื้อลงชื่อเอาไว้ภายในหนังสือ หรือต้องมีการวางมัดจำ หรือมีการจ่ายหนี้เล็กน้อยไปแล้ว มิฉะนั้นจะฟ้องศาลให้ศาล บังคับไม่ได้การถอนทรัพย์คืนหรือการซื้อกลับ
1. สินไถ่หมายถึงจำนวนเงินที่คนขายฝากจะต้องเอามาจ่ายแก่คนรับซื้อฝาก เพื่อขอไถ่เอา ทรัพย์สมบัติคืนซึ่งอาจจะตกลงไว้ภายในสัญญาขายฝากหรือไม่ได้ตกลงไว้ก็ได้ แล้วก็สินไถ่ควรจะเป็น เงินเสมอรวมทั้งไถ่คืนกันด้วยเงินทองอันอื่นมิได้
2. ช่วงเวลาการไถ่คืนทรัพย์สินที่ขายฝาก
2.1 วิธีขายฝากอสังหาริมทรัพย์ ต้องกำหนดไถ่ถอนกันภายในเวลาไม่เกิน 10 ปี
2.2 การขายฝากสังหาริมทรัพย์ ต้องกำหนดไถ่คืนกันภายในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี
3. การไถ่คืนทรัพย์สมบัติคืนมีข้อไตร่ตรองดังนี้
3.1 จำเป็นต้องไถ่ข้างในตั้งเวลาที่ตกลงกันไว้ จะไถ่เมื่อเกินกำหนดแล้วมิได้ และก็เจ้าของในทรัพย์สินจะเป็นของคนซื้อฝากโดยเด็ดขาด คนขายฝากหมดสิทธิไถ่
3.2 ขยายตั้งเวลาไถ่ทรัพย์สมบัติคืนสามารถทำเป็น ควรมีหลักฐานเป็นหนังสือ เซ็นชื่อคนรับไถ่
4. บุคคลที่มีสิทธิไถ่สินทรัพย์ที่ขายฝากคืนได้
4.1 คนขายฝากหรือผู้สืบสกุลของผู้ขายฝาก
4.2 คนรับโอนสิทธิการถอนเงินคืน
4.3 บุคคลซึ่งในสัญญายอมไว้โดยยิ่งไปกว่านั้นว่าให้เป็นผู้ไถ่ได้
5. บุคคลที่มีสิทธิให้ไถ่คืนได้
5.1 ผู้รับซื้อฝากหรือถ้าหากว่าคนรับซื้อฝากตายก่อนถึงกำหนดเวลาไถ่ ผู้ขาย ฝาก จำเป็นต้องไปขอไถ่จากทายาทของคนรับฝาก
5.2 ผู้รับโอนเงินที่ขายฝากนั้น จากคนซื้อฝากเดิมดอกผลของเงิน ที่ขายฝากที่เกิดขึ้นในระหว่างวิธีขายฝากดอกผลของเงินที่ขายฝากซึ่งเกิดขึ้นใน ระหว่างแนวทางการขายฝากย่อมตกเป็นของคนซื้อฝาก ค่าธรรมเนียมตอนทำความตกลงขายฝาก ผู้ซื้อฝากเป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมการไถ่คืนถอนขายฝาก ทำอย่างไรโฉนดที่ดินทำนิติกรรม ขายฝาก ไว้ ที่ทำการที่ดิน กรณีข้อตกลงขายฝากลงทะเบียนถูกต้อง ควรไถ่ถอนด้านในกำหนด และจำเป็นต้องจัดการไถ่คืนที่กรมที่ดินเท่านั้น ก่อนที่จะดินจะกลายเป็นเจ้าของคนรับซื้อฝาก ถ้าหากเจ้าหนี้ไม่ยอมให้ไถ่คืน ทางผู้ขายฝากสามารถให้ไปที่ที่ทำการบังคับคดี ในจังหวัดนั้นๆ ติดต่อสอบถามหัวข้อการวางสินทรัพย์เพื่อใช้หนี้ใช้สิน เมื่อวางทรัพย์สมบัติตามขั้นตอน ถือว่ามีการไถ่ถอนตามที่กำหนดแล้ว.....ส่วนหนี้รายอื่น เจ้าหนี้จะมานำมาใช้เป็นเหตุไม่ยอมให้ไถ่ถอนไม่ได้ ควรรีบปฏิบัติการวางทรัพย์เพื่อใช้หนี้ ความเข้าใจเรื่องการวางสินทรัพย์....การวางทรัพย์การวางทรัพย์สมบัติเป็นกรรมวิธีการที่อนุญาตให้ลูกหนี้หรือบุคคลที่สามที่ยินดีจะจ่ายและชำระหนี้แทนลูกหนี้มาวางทรัพย์ ณ สำนักงานวางสมบัติพัสถาน ซึ่งถ้าหากปฏิบัติการอย่างแม่นยำแล้ว ย่อมทำให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้สิน ถึงแม้เจ้าหนี้เห็นด้วยไม่รับจ่ายและชำระหนี้เหตุของการวางทรัพย์สินเหตุที่จะวางทรัพย์ได้มีดังนี้
1) เจ้าหนี้บอกปัดไม่รับใช้หนี้หรือปฏิเสธไม่ยอมรับจ่ายหนี้ ได้แก่ จ่ายค่าเช่าบ้านมิได้ เพราะว่าผู้ให้เช่าเลี่ยงเพื่อหาเรื่องจะยกเลิกการเช่า
2) เจ้าหนี้ไม่อาจจะจะรับใช้หนี้ใช้สินได้ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะเจ้าหนี้ไม่อยู่หรือไปยังประเทศอื่นๆไม่รู้จักจะกลับมาเมื่อใด
3) ไม่สามารถที่จะจะหยั่งรู้ถึงสิทธิของเจ้าหนี้ หรือรู้สึกตัวเจ้าหนี้ได้แน่ๆโดยมิใช่ข้อผิดพลาดของตนเอง ดังเช่น เจ้าหนี้ตาย ลูกหนี้ไม่เคยทราบว่าผู้ใดกันแน่เป็นผู้สืบสกุล
4) ตามบทบัญญัติที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 232,302,631,679,754,772 และก็ 947
5) ตามบัญญัติที่กฎหมายอื่นให้มีการวางทรัพย์สิน ยกตัวอย่างเช่น ข้อบังคับเวนคืนอสังหาร
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »