ประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยน วัดพระพุทธฉาย จังหวัดสระบุรี

      เมื่อถึงวันออกพรรษา หลายๆ คนคงเตรียมตัวไปร่วมงานตักบาตรเทโวกันเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะที่วัดพระพุทธฉาย จังหวัดสระบุรี ที่เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ประจำปีที่ผู้คนมากมายเดินทางไปร่วมงานอย่างคับคั่ง มีการแสดงรำวง ประกวดทำข้าวต้มลูกโยน และที่เป็นไฮไลท์ก็ต้องเป็นการตักบาตรข้าวต้มลูกโยนนี่เอง เป็นภาพที่เราจะได้เห็นกันทุกๆ ปี สำหรับปี 2563 นี้ งานจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 ต.ค. (แรม 1 ค่ำ เดือน 11)

ที่มา ความเป็นมาของประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยน
 
       ตามตำนานกล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงมีพระชนมายุอยู่นั้น ทรงเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และเสด็จกลับมายังมนุษย์โลกที่เมืองสังกัสสะ ซึ่งตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ประชาชนต่างมารอเฝ้ารับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วันนั้นท่านได้กล่าวไว้ว่าเป็นวันเปิดโลก ทำให้โลกมนุษย์ สวรรค์และนรก ต่างเห็นกันและกัน ประชาชนที่มาจำนวนมากต่างปรารถนาใส่บาตรพระพุทธองค์ คนที่อยู่ห่างออกไปไม่สามารถจะใส่บาตรได้ถึง จึงใช้วิธีการโยนอาหารของตนลงในบาตรของพระพุทธเจ้าและพระสาวก โดยอาหารเหล่านั้นตกลงในบาตรเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง จึงถือเอาหลังวันออกพรรษาหนึ่งวัน จัดให้มีประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยนขึ้นเป็นประจำทุกปี

 “ข้าวต้มลูกโยน” หรือ “ข้าวต้มหาง” จึงกลายมาเป็นเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการห่อข้าวต้มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำมาจากข้าวเหนียวผัดกับกะทิ ถั่วดำ ผสมน้ำตาลทรายและเกลือ แล้วนำมาห่อด้วยใบเตย หรือใบมะพร้าวอ่อน (คล้ายกับข้ามต้มมัด) โดยจะทำเป็นกรวยห่อหุ้มข้าวเหนียว และเหลือใบไว้ เป็นหางยาว ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการใส่บาตร
     
        วัดพระพุทธฉาย

เป็นโบราณสถานสำคัญของจังหวัดสระบุรี โบราณสถานที่สำคัญหลายอย่าง เช่น รอยพระพุทธฉาย หรือรูปเงาพระพุทธเจ้า ที่ประทับอยู่เงื้อมหน้าผา รอยพระพุทธบาทเบื้องขวาที่อยู่บนยอดเขา และที่วัดพระพุทธฉายแห่งนี้ยังมีพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จมาสักการบูชารอยพระพุทธฉาย และปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นการส่วนพระองค์ ถึง 12 พระองค์ ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มาจนถึง รัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ ที่ได้ลงพระปรมาภิไธยและพระนามไว้ บริเวณหน้าผา

     งานข้าวต้มลูกโยนที่วัดพระพุทธฉาย เป็นงานที่จัดเป็นประจำทุกปี นักท่องเที่ยวนิยมซื้อติดไม้ติดมือกลับไปบ้านเป็นของฝากด้วย เพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าข้าวต้มลูกโยนที่นี่หอมอร่อยจริงๆ ราคาไม่แพงขายเป็นพวง ราคาพวงละประมาณ 30-50 บาท

     แม้ปัจจุบันประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยนจะเลือนหายไปบ้างตามกาลเวลา แต่ก็ยังมีผู้ที่พยายามอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดงานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามเช่นนี้ให้อยู่คู่พุทธศาสนาต่อไป นอกเหนือจากที่วัดพระพุทธฉาย จังหวัดสระบุรีแล้ว ก็ยังมีที่วัดท่าไทร จังหวัดสุราษฏร์ธานี วัดตระพังทอง สุโขทัย และวัดสังกัสรัตนคีรี จังหวัดอุทัยธานีด้วย

 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดพระพุทธฉาย โทรศัพท์ 036-303169 และ ททท.สำนักงานลพบุรี โทรศัพท์ 036-770096-7 ได้ทุกวันเวลา 08.30-16.30 น. หรือ www.tat7.com และ Facebook page : www.facebook.com/watphraputtachai